โพสต์ทางสื่อสังคมออนไลน์แชร์คำกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประโยชน์ทางโภชนาการของกล้วย
- บทความนี้มีอายุมากกว่า 1 ปี
- เผยแพร่ วันที่ 25 เมษายน 2022 เวลา 09:02
- ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
- เขียนโดย: Montira RUNGJIRAJITTRANON, AFP ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ์ © AFP 2560-2568 การใช้เนื้อหาในลักษณะเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก ข้อมูลเพิ่มเติม
คำกล่าวอ้างนี้ ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2565
คำบรรยายโพสต์แปลเป็นภาษาไทยว่า “ประโยชน์ต่าง ๆ ทางโภชนาการของกล้วย
แก้อาการท้องผูก ... ช่วยรักษาไมเกรน ... ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น ... ลดความอ้วนได้ดีขึ้น ... ช่วยลดความเครียด ... บำรุงสายตา คลายหิว”
โพสต์ดังกล่าวใช้ภาพกล้วยตากแห้ง ซึ่งเป็นอาหารทานเล่นยอดนิยมในประเทศไทย
คำกล่าวอ้างเกี่ยวกับประโยชน์ของการทานกล้วย ได้ถูกแชร์ออนไลน์ในโพสต์ภาษาไทยมาแล้วตั้งแต่ปี 2560 เช่นที่นี่ และถูกนำกลับมาแชร์ในเดือนเมษายน ปี 2565 ที่นี่และนี่
คำกล่าวอ้างคล้ายๆ กันได้ถูกแชร์ในโพสต์ภาษาอังกฤษทางทวิตเตอร์ที่นี่ นี่และนี่
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า คำกล่าวอ้างหลายข้อในโพสต์ดังกล่าวได้กล่าวถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของกล้วยที่เกินจริง
คำกล่าวอ้าง: “กล้วยช่วยแก้อาการท้องผูก”
รศ.ดร.ขนิษฐา ธนานุวงศ์ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันกับ AFP ว่า กล้วยจะสามารถช่วยแก้อาการท้องผูกได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสุกของผลกล้วย
“คำกล่าวอ้างนี้เป็นความจริงบางส่วน แม้ว่ากล้วยจะสามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้ แต่ไม่ได้เป็นผลไม้วิเศษที่สามารถใช้รักษาอาการท้องผูก ได้” เธอกล่าว “กล้วยมีส่วนไฟเบอร์ซึ่งช่วยในการระบายท้อง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสุกของกล้วยลูกนั้นด้วย”
“ถ้าเราทานกล้วยตอนที่สุกเต็มที่ รสชาติจะหวานมากๆ จะไม่มีส่วนช่วยในการระบายท้อง ถ้าเราทานตอนที่กล้วยห่าม ส่วนที่เป็นไฟเบอร์จะสูงและสามารถช่วยอาการท้องผูกได้”
วารีทิพย์ พึ่งพันธ์ นักโภชนาการจากสำนักโภชนาการ กรมอนามัย อธิบายกับ AFP ว่า “ถ้าจะทานเพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องผูก คุณต้องทานกล้วยที่สุกกำลังพอดี”
คำกล่าวอ้าง: “กล้วยช่วยบรรเทาไมเกรน”
วารีทิพย์กล่าวว่า “ไม่มีหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวอ้างว่ากล้วยช่วยบรรเทาอาการไมเกรน”
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เผยแพร่แถลงการณ์ฉบับนี้ในโพสต์ทางเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2563 โดยระบุว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าว “เป็นเรื่องไม่จริง”
คำบรรยายโพสต์เขียนว่า “แชร์มั่ว กล้วยรักษาไมเกรน เป็นเรื่องไม่จริงเพราะกล้วยไม่มีข้อบ่งใช้ทางการแพทย์ในการรักษาไมเกรน ตามนี้เลย”
ขนิษฐากล่าวว่า “ไม่มีการศึกษายืนยันความเชื่อมโยงระหว่างกล้วยและไมเกรนที่ชัดเจน”
คำกล่าวอ้าง: “กล้วยช่วยลดความเครียดและช่วยให้นอนหลับสบาย”
วารีทิพย์กล่าวว่าไม่มีหลักฐานที่เชื่อมโยงการรับประทานกล้วยเข้าและระดับความเครียด
“ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ระบุว่าการทานผลไม้ดังกล่าวจะช่วยในการผ่อนคลาย” วารีทิพย์กล่าว
ขนิษฐาอธิบายว่า “เราไม่สามารถฟันธงได้ว่ากล้วยจะช่วยให้เรานอนหลับสบายขึ้น หรือช่วยลดระดับความเครียดลง”
คำกล่าวอ้าง: “กล้วยบำรุงสายตา”
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายกับ AFP ว่าวิตามินเอ -ซึ่งพบได้ในเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ มีสรรพคุณในการบำรุงสายตาและการมองเห็นจริง
อย่างไรก็ตาม กล้วยไม่ได้มีส่วนผสมของวิตามินเอที่สูงนัก เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้สีสดอื่นๆ เช่นฟักทองและแครอท วารีทิพย์กล่าว
“กล้วยไม่ได้มีส่วนประกอบของวิตามินเอที่สูง ซึ่งจะดีกว่าถ้าบริโภคผลไม้ชนิดอื่นที่มีวิตามินเอที่สูงกว่า” ขนิษฐากล่าว
คำกล่าวอ้าง: “ช่วยลดความอ้วนได้ดี”
วารีทิพย์กล่าวว่าเราควรจะกินกล้วยในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ควรกินในปริมาณมากเกิน
“ต้องไม่ลืมว่ากล้วยมีระดับน้ำตาลที่สูง” เธอกล่าว “อย่างไรก็ตาม เวลาเราหิว เป็นเรื่องที่ดีกว่าแน่นอนที่จะทานกล้วยหนึ่งลูกดีกว่าช็อกโกแล็ตหนึ่งแท่ง”
พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?
ติดต่อเรา