โพสต์ในประเทศไทยแชร์คำกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประโยชน์ด้านสุขภาพของการดื่มน้ำโซดา
- บทความนี้มีอายุมากกว่า 1 ปี
- เผยแพร่ วันที่ 28 มกราคม 2022 เวลา 10:42
- ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
- เขียนโดย: AFP ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ์ © AFP 2560-2568 การใช้เนื้อหาในลักษณะเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก ข้อมูลเพิ่มเติม
คำกล่าวอ้างนี้ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2565
โพสต์ดังกล่าวเป็นภาพอินโฟกราฟฟิก ซึ่งเขียนว่า “น้ำโซดามีประโยชน์อย่างไร
หลานคนกังวลถึงอันตรายของน้ำอัดก๊าซ หรือน้ำอัดลมต่างๆ ในแง่ของสุขภาพ แต่สำหรับบทความนี้จะขอกล่าวถึงน้ำอัดลมที่ไม่ใส่น้ำตาล เช่นน้ำโซดา ว่าดื่มแล้วจะมีประโยชน์ต่อร่างกายยังไงบ้าง
โซดาแก้ท้องผูก: ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่ดื่มน้ำโซดามีอาการท้องผูกน้อยลง ระบบขับถ่ายดีขึ้นมากกว่ากลุ่มที่ดื่มน้ำเปล่า
โซดาแก้ท้องอืด: สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืดจากอาหารไม่ย่อยได้ การดื่มน้ำโซดาจะช่วยให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้น
โซดาเพิ่มความชุ่มชื่น: การดื่มน้ำโซดาเป็นการเติมความชุ่มชื่นให้แก่ร่างกาย สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า อาจดื่มน้ำโซดาสลับเพื่อเปลี่ยนบรรยกาศและสนับสนุนการดื่มน้ำให้มากขึ้น
โซเดียมที่อยู่ในน้ำโซดาจะช่วยลดปัญหาความเสี่ยงต่อโรคหัวใจอีกทั้งยังรักษาค่าความเป็นกรดและด่างของร่างกายให้อยู่ในสภาพที่สมดุลอีกด้วย”
โพสต์ดังกล่าวระบุว่าข้อมูลชุดนี้ มาจาก Roowai เว็บไซต์ด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์
คำกล่าวอ้างคล้ายๆ กัน ได้ถูกแชร์บนเว็บไซต์ของ Roowai และวิดีโอทางยูทูปซึ่งมียอดรับชมมากกว่า 20,000 ครั้ง
และในโพสต์ทางเฟซบุ๊กที่นี่และนี่
คอมเมนต์ในโพสต์ที่ทำให้เข้าใจผิด แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์บางคนหลงเชื่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว
มีคนหนึ่งเขียนว่า “ไม่ชอบดื่มน้ำโซดา แต่จะพยายามดื่มให้บ่อยครับ”
“ใช่เลยครับ รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพครับ” ผู้ใช้อีกคนหนึ่งกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่าคำกล่าวอ้างนี้ ทำให้เข้าใจผิด
คำกล่าวอ้าง: ท้องผูก
“ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่าน้ำโซดาสามารถแก้ท้องผูกได้จริง” นพ.สยาม ศิรินธรปัญญา หัวหน้างานโรคทางเดินอาหาร กลุ่มอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี ยืนยันกับ AFP เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565
“ประโยชน์ของมันยังไม่ชัดเจน”
แม้ว่ามีงานวิจัยบางฉบับได้ประเมินประสิทธิภาพของน้ำโซดาในการรักษาอาการท้องผูก แต่ว่างานวิจัยเหล่านั้นใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก และเก่าไปแล้ว นพ.สยาม กล่าว
“ไม่ควรกินเพื่อใช้เป็นยารักษาประจำ”
งานวิจัยฉบับนี้นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเนเปิลส์ ได้ตรวจสอบผลกระทบของน้ำอัดลมต่อระบบทางเดินอาหาร และพบว่าหลักฐานที่มีอยู่ยังมีความ "ขัดแย้ง" กันอยู่
เนื้อหาบางส่วนของงานวิจัยดังกล่าวแปลเป็นภาษาไทยว่า “ต้องมีการศึกษาเพิ่ม โดยเฉพาะในทดลองแทรกแซง เพื่อที่จะสนับสนุนคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับผลประโยชน์ของเครื่องดื่มอัดลมต่อระบบทางเดินอาหาร และต้องชี้แจงด้วยว่ามีผลต่อการย่อยอาหารอย่างไร”
ทิพรดี คงสุวรรณ นักโภชนาการการปฏิบัติการจากสำนักโภชนาการของประเทศไทย ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข กล่าวเช่นกันว่างานวิจัยเกี่ยวกับโซดาและอาการท้องร่วงนั้น "ไม่มีข้อมูลยืนยัน"
“ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนคำกล่าวอ้างนี้” เธออธิบายกับ AFP เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565
ทั้งนพ.สยาม และ ทิพรดี กล่าวว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าน้ำโซดาสามารถช่วยรักษาอาการท้องอืดได้จริง
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าปกติ แทนการดื่มน้ำโซดา พร้อมเตือนว่าการดื่มน้ำโซดาในปริมาณที่มากเกิน อาจจะทำให้เกิดปัญหาหรือทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลงได้
“การดื่มน้ำโซดาไม่มีอันตรายอะไรทั่วไป แต่อยากให้ดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก” ทิพรดีกล่าว
นพ.สยาม กล่าวว่าผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพบางอย่าง ควรเลี่ยงการดื่มน้ำโซดาเพราะมีส่วนผสมของกรด
“น้ำอัดลมมีส่วนผสมของกรดสูงกว่าน้ำปกติ คนที่ป่วยโรคกระเพาะ อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) และกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มโซดาเนื่องจากอาจจะทำให้มีอาการแย่ลง” เขากล่าว
โรคหัวใจ
คำกล่าวอ้างที่ระบุว่าน้ำโซดาช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจนั้นไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน ทิพรดีอธิบายให้กับ AFP
ทิพรดีกล่าวว่าน้ำโซดายังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ว่าจะช่วยรักษาความสมดุลของค่า pH ให้กับร่างกาย
“ร่างกายของเรามีกลไกในการรักษาความสมดุลของค่า pH ในร่างกายอยู่แล้ว น้ำโซดาไม่ได้ช่วยกลไกใดๆ ในร่างกาย” เธอกล่าว
พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?
ติดต่อเรา