ผู้เชี่ยวชาญปฏิเสธคำกล่าวอ้างเท็จว่า "ไม่ควรดื่มน้ำเย็นในช่วงอากาศร้อนเพราะหลอดเลือดเล็กอาจปริหรือระเบิด"

ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดในหลายภูมิภาคทั่วโลก ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในประเทศไทยได้แชร์คำแนะนำเท็จที่อ้างว่า การดื่มน้ำเย็นในช่วงอากาศร้อนนั้น "อาจทำให้หลอดเลือดเล็กปริหรือระเบิดได้" ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า แม้การดื่มน้ำเย็นจะส่งผลให้หลอดเลือดหดตัวจริง แต่ไม่ถึงกับทำให้หลอดเลือดระเบิดได้ พร้อมย้ำว่าการดื่มน้ำเย็นไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์

คำบรรยายของโพสต์นี้ทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 เขียนว่า: "หมอบอกว่า หากร้อนถึง 40 องศา ไม่ควรดื่มน้ำเย็นต่อไป เพราะหลอดเลือดเล็กอาจปริหรือระเบิดได้"

โพสต์ดังกล่าวยังระบุต่อในช่วงท้ายว่า "ในหน้าร้อนหรือยามคุณอ่อนเพลีย หลีกเลี่ยงดื่มน้ำเย็นทันที เพราะมันจะทำให้หลอดเลือดหดเล็ก แล้วเป็นสโตรก" 

Image
ภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์เฟซบุ๊กที่แชร์คำกล่าวอ้างเท็จ

คำกล่าวอ้างเหล่านี้ถูกแชร์อย่างแพร่หลายในช่วงอากาศร้อนจัดในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2566 เช่น ที่นี่ และ นี่ และในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน 2567 ที่นี่ และ นี่

Image
ภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์เฟซบุ๊กที่แชร์คำกล่าวอ้างเท็จ

เดือนเมษายน 2567 เป็นช่วงที่ประเทศไทยเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรงซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ประชาชนทั่วประเทศเสียชีวิตจากฮีทสโตรกแล้ว 30 ราย

นายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวกับ AFP ว่า ผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคอ้วน ควรอยู่ในที่ร่มและดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ

นอกจากนี้ คำกล่าวอ้างว่าการดื่มน้ำเย็นช่วงอากาศร้อนจัดจะทำให้หลอดเลือดระเบิดได้นั้นเป็นเท็จ หน่วยงานสาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว และยืนยันว่าการดื่มน้ำเย็นในช่วงอากาศร้อนจัดนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

"ดื่มน้ำเย็นไม่อันตราย"

"การดื่มน้ำเย็นไม่ได้อันตรายอะไรแบบนั้น" รศ.ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุกับ AFP เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567

"เวลาน้ำเย็นจัดถูกดื่มเข้าไปในร่างกาย ร่างกายคนเราก็จะปรับสภาพน้ำให้เท่ากับอุณหภูมิทันที การดื่มน้ำเย็นจัดจึงไม่สามารถส่งผลร้าย หรือทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้" ดร. เจษฎากล่าวต่อ

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งประเทศไทยรายงานเกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้เช่นกันเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 โดยระบุว่าเป็นคำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็น "ข้อมูลเท็จ" (ลิงก์บันทึก)

"โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าวข้อมูลตามข้อความดังกล่าวไม่พบความสัมพันธ์ตามข้อมูลทางการแพทย์และไม่มีความเป็นจริงตามข้อมูลทางการแพทย์ หรือข้อมูลทางการแพทย์แผนปัจจุบันที่สนับสนุนตามที่ข้อความกล่าวอ้างถึงแต่อย่างใด จึงเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และเชื่อถือไม่ได้" รายงานระบุ

Image
ภาพถ่ายหน้าจอจากรายงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งประเทศไทย

ดร. ริชาร์ด ซานโตส ประธานวิทยาลัยเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งฟิลิปปินส์ กล่าวว่า แม้ว่าคำกล่าวอ้างในโพสต์จะมีข้อมูลบางส่วนที่ถูกต้อง แต่ก็ทำให้เกิดการเชื่อมโยงที่ผิดพลาดระหว่างโรคหลอดเลือดสมองกับการดื่มน้ำเย็นในสภาพอากาศร้อน

"คำกล่าวอ้างบางส่วนในโพสต์นั้นถูกต้อง น้ำเย็นทำให้หลอดเลือดหดตัว ซึ่งเป็นการตอบสนองทางกายภาพเมื่อสัมผัสกับความเย็น" เขากล่าวกับ AFP

"แต่ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่ยืนยันว่า การดื่มน้ำเย็นเกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดสมองโดยตรง ไม่ว่าจะเกิดจากหลอดเลือดแดงอุดตันหรือหลอดเลือดแตก"

ดร. ซานโตส ยังกล่าวเสริมด้วยว่า คนเราควรดื่มน้ำเปล่าหากจำเป็นต้องสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงเป็นเวลานาน เนื่องจากเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำได้ง่าย

"น้ำเย็นอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีอาการป่วยอยู่ก่อนหน้าแล้ว แต่เป็นกรณีที่พบได้ยากมาก ๆ และแทบเป็นไปไม่ได้ที่ร่างกายของคุณจะเกิดปฏิกิริยาเชิงลบจากการดื่มน้ำเย็น" เขากล่าว

สถาบันด้านการแพทย์จอห์น ฮอปกินส์ ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การสัมผัสกับความร้อนและความชื้นที่สูงผิดปกติหรือเป็นเวลานานเกินไป "โดยไม่มีการบรรเทาหรือดื่มน้ำอย่างเพียงพอ" อาจส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับความร้อนได้หลายประเภท เช่น ตะคริว อาการอ่อนเพลีย และโรคลมแดด (heat stroke) ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินระดับอันตรายถึงแก่ชีวิต

พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?

ติดต่อเรา