
ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ในไทยล้อเลียนกัมพูชาด้วยการแชร์คลิปพายุจากเวียดนามพร้อมคำกล่าวอ้างเท็จ
- เผยแพร่ วันที่ 9 กันยายน 2568 เวลา 11:04
- ใช้เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
- เขียนโดย: Chayanit ITTHIPONGMAETEE, Lam NGUYEN, AFP ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ์ © AFP 2560-2568 การใช้เนื้อหาในลักษณะเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก ข้อมูลเพิ่มเติม
โพสต์ติ๊กตอกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2568 ได้แชร์คลิปความยาว 6 วินาที โดยมีข้อความที่ฝังไว้ระบุว่า "พายุเข้าเขมร เขมรว่าแต่ไทย ทีนี้มึงโดนเองเลย"
คลิปดังกล่าว ซึ่งมียอดรับชมมากกว่า 507,000 ครั้ง แสดงให้เห็นพ่อค้าแม่ค้าริมถนนพยายามดึงไม่ให้แผงลอยถูกพัดไปกับกระแสลมแรง

คลิปดังกล่าวและคำกล่าวอ้างลักษณะเดียวกันยังถูกแชร์ในโพสต์ติ๊กตอกอื่น รวมไปถึงโพสต์เฟซบุ๊กและยูทูบด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในคำกล่าวอ้างที่กลุ่มผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ชาวไทยและกัมพูชาจำนวนหนึ่งมักใช้เพื่อโจมตีต่อกัน หลังจากทั้งสองประเทศปะทะกันอย่างรุนแรงที่บริเวณชายแดนเป็นเวลา 5 ห้าวันในเดือนกรกฎาคม (ลิงก์บันทึก)
"แช่งไทยดีนักแช่งนั้นใด้ย้อนกับไปหาเขมรแล้วสมน้ำหน้ามึง" ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุ
ผู้ใช้งานอีกรายเขียนคอมเมนต์ว่า "เวร/กรรม.ที่เนรคุณต่อไทย ปล่อยไป. อย่าให้เข้ามา รพ.ไทย"
คำกล่าวอ้างนี้ถูกแชร์ในช่วงที่พายุคาจิกิพัดขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามช่วงปลายเดือนสิงหาคม ก่อนไทยได้รับผลจากพายุในเวลาต่อมา ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และบาดเจ็บอีก 15 คน (ลิงก์บันทึก)
ต่อมา พายุหนองฟ้าพัดถล่มกัมพูชาและทำให้เกิดน้ำท่วมในเมืองเสียมราฐ สื่อท้องถิ่นระบุ (ลิงก์บันทึก)
อย่างไรก็ตาม คลิปดังกล่าวไม่ได้บันทึกเหตุการณ์พายุพัดถล่มกัมพูชา แต่เป็นพายุที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม
การค้นหาภาพย้อนหลังโดยใช้เฟรมสำคัญ พบคลิปเดียวกันถูกแชร์ในโพสต์ติ๊กตอกเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 พร้อมคำบรรยายภาษาเวียดนามที่เขียนว่า "พายุฝนฟ้าคะนองในฮานอยรุนแรงมาก" (ลิงก์บันทึก)
คลิปในโพสต์ติ๊กตอกนี้ถูกนำไปพลิกในแนวนอนก่อนจะแชร์ต่อพร้อมคำกล่าวอ้างเท็จ
สื่อเวียดนามรายงานเกี่ยวกับพายุฝนฟ้าคะนองพัดถล่มอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจราจรในเมืองฮานอยและเมืองอื่น ๆ ในทางตอนเหนือของเวียดนาม (ลิงก์บันทึก) ในวันเดียวกัน เกิดเหตุเรือท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย (ลิงก์บันทึก)
การสังเกตคลิปดังกล่าวอย่างละเอียดยังพบเบาะแสอื่น ๆ ที่ระบุว่าเป็นคลิปจากประเทศเวียดนาม เช่น รถยนต์สีฟ้าคราม ซึ่งเป็นรถของบริษัทแท็กซี่ไฟฟ้าของเวียดนามชื่อ Xanh SM (ลิงก์บันทึก)

ป้ายร้านภาษาเวียดนามที่ปรากฏในวิดีโออ่านว่า "ทิต" และ "ชิมกั๊น" ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า "เนื้อ" และ "นกประดับ"
นอกจากนี้ AFP พบว่าร้านค้าชื่อ "Shop Boy" ที่ปรากฏในภาพระดับถนนบนแผนที่กูเกิล ซึ่งเป็นภาพจากถนน Pho Nhon ในเมืองฮานอยอีกด้วย (ลิงก์บันทึก)

อ่านรายงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยของ AFP ได้ที่นี่
พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?
ติดต่อเรา