ภาพและวิดีโอจากประเทศเมียนมาถูกแชร์ว่าเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา

หลังการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างกองทัพของไทยและกัมพูชาในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม สถานการณ์ในบริเวณชายแดนในเดือนกันยายน 2568 ยังคงมีความตึงเครียดต่อเนื่อง โดยผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้แชร์ภาพและวิดีโอพร้อมคำกล่าวอ้างว่าเป็นภาพ "ทหารกัมพูชาเคลื่อนกำลังพลใกล้ชายแดนไทย" แต่ที่จริงแล้ว นี่เป็นภาพจากประเทศเมียนมาและไม่มีความเกี่ยวข้องกับไทยและกัมพูชาแต่อย่างใด

"รอบนี้เขมรชนทหารมาเพียบประชิดชายแดนแล้ว 23/09/68" เพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งเขียนคำบรรยายในโพสต์เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568

โพสต์ดังกล่าวได้แชร์ภาพถ่ายทหารกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนรถกระบะขณะวิ่งอยู่บนถนน

Image
ภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์เฟซบุ๊กที่แชร์คำกล่าวอ้างเท็จ โดย AFP เพิ่มเครื่องหมายกากบาทสีแดง

โพสต์ที่แชร์ภาพและคำกล่าวอ้างเดียวกันนี้ยังปรากฏในโพสต์เฟซบุ๊กอื่น รวมไปถึงโพสต์ในอินสตาแกรม  ติ๊กตอก และเธรดส์ด้วย

ประเทศไทยและกัมพูชาต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลนับตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเกิดขึ้นหลังเหตุปะทะรุนแรงที่คร่าชีวิตผู้คนจากทั้งสองฝ่ายไปแล้วอย่างน้อย 43 ราย (ลิงก์บันทึก)

ทางการไทยกล่าวหาว่ากัมพูชาระดมกำลังทหารและอาวุธใกล้บริเวณชายแดน ในขณะที่กระทรวงกลาโหมของกัมพูชาออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ (ลิงก์บันทึกที่นี่ และ นี่)

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 กองกำลังไทยและกัมพูชาได้ปะทะกันอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการปะทะกันครั้งแรกนับตั้งแต่มีข้อตกลงหยุดยิง โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นผู้โจมตีก่อน (ลิงก์บันทึก)

นอกจากนี้ AFP ยังพบคลิปวิดีโอฉบับหนึ่งในโพสต์ติ๊กตอกเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ซึ่งแสดงให้เห็นทหารนั่งอยู่ท้ายรถกระบะ โพสต์ดังกล่าวเขียนคำบรรยายเป็นภาษาอินโดนีเซียว่า "ทหารฟิลิปปินส์ลาดตระเวน" ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างเท็จเช่นกัน

Image
ภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์ติ๊กตอกที่แชร์คำกล่าวอ้างเท็จ โดย AFP เพิ่มเครื่องหมายกากบาทสีแดง

อย่างไรก็ตาม ภาพและวิดีโอเหล่านี้ไม่ได้เป็นภาพจากกัมพูชาหรือฟิลิปปินส์

แม้ว่าการค้นหาภาพย้อนหลังหรือการค้นหาด้วยคำสำคัญจะไม่พบแหล่งที่มาที่ชัดเจนของภาพหรือวิดีโอดังกล่าว แต่ AFP พบเบาะแสทางภาพหลายจุดที่ยืนยันได้ว่าคลิปนี้ถูกถ่ายในประเทศเมียนมา

รถกระบะในคลิปมีป้ายทะเบียนที่สอดคล้องกับกับทะเบียนรถในเมียนมา (ลิงก์บันทึก)

Image
เปรียบเทียบภาพถ่ายหน้าจอระหว่างวิดีโอ โดย AFP ได้ใช้เครื่องมือแว่นขยายเพื่อแสดงให้เห็นป้ายทะเบียนรถ (ซ้าย) และรูปแบบของป้ายทะเบียนรถในประเทศเมียนมา อ้างอิงจาก worldlicenseplates.com (ขวา)

ขณะเดียวกัน วิดีโอยังเผยให้เห็นป้ายริมถนนที่มีข้อความภาษาพม่าและจีน

Image
ภาพถ่ายหน้าจอของวิดีโอที่แสดงให้เห็นป้ายภาษาพม่าและจีน

บุคคลที่ปรากฏในวิดีโอสวมปลอกแขนและตราสัญลักษณ์ธงชาติเมียนมาและธงของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union หรือ KNU) ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในเมียนมา (ลิงก์บันทึกที่นี่ และ นี่)

Image
เปรียบเทียบภาพถ่ายหน้าจอระหว่างวิดีโอ โดย AFP ใช้เครื่องมือแว่นขยายเพื่อแสดงให้เห็นสัญลักษณ์ธงชาติเมียนมา (ซ้าย) และธงชาติเมียนมา (ขวา)

Image
เปรียบเทียบภาพถ่ายหน้าจอระหว่างวิดีโอ โดย AFP ใช้เครื่องมือแว่นขยายเพื่อแสดงให้เห็นสัญลักษณ์ธงของ KNU (ซ้าย) และธงของ KNU (ขวา)

ในคลิปวิดีโอดังกล่าวพบอนุสาวรีย์สีแดง-ทองที่อยู่ตรงกลางวงเวียน ซึ่งมีข้อความภาษาพม่าที่ระบุว่า "ยินดีต้อนรับสู่ชเวก๊กโก เมืองเมียวดี"

ชเวก๊กโกเป็นเมืองชายแดนทางตะวันออกของเมียนมาที่โด่งดังจากการเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมข้ามชาติและขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ เมืองนี้อยู่นอกการควบคุมของรัฐบาลกลางเมียนมา และมีโครงการที่ลงทุนโดยกลุ่มทุนจีนจำนวนมาก (ลิงก์บันทึก)

ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและกองกำลังจากกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นได้เข้าตรวจค้นศูนย์อาชญากรรมเหล่านี้ที่มีความเชื่อมโยงกับการค้ายาเสพติดและการพนัน ก่อนจะมีการปล่อยตัวชาวต่างชาติที่ถูกหลอกลวงให้ทำงานผิดกฏหมาย และส่งพวกเขากลับไปยังประเทศต้นทาง (ลิงก์บันทึก)

Image
ภาพถ่ายหน้าจอของวิดีโอที่แสดงให้เห็นอนุสาวรีย์ที่มีข้อความภาษาพม่า

อนุสาวรีย์และสิ่งปลูกสร้างที่ปรากฏในวิดีโอนั้นสอดคล้องกับภาพถ่ายดาวเทียมของเมืองชเวก๊กโกในแผนที่กูเกิล (ลิงก์บันทึก)

Image
เปรียบเทียบภาพถ่ายหน้าจอระหว่างวิดีโอ (ซ้ายและกลาง) และภาพถ่ายดาวเทียมในแผนที่กูเกิล (ขวา) โดย AFP ได้ทำเครื่องหมายเพื่อเน้นให้เห็นองค์ประกอบที่สอดคล้องกัน

ก่อนหน้านี้ AFP ได้ตรวจสอบคำกล่าวอ้างเท็จอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา

พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?

ติดต่อเรา