ตำรวจเผยจับกุมจากดีเอ็นเอเหงื่อคนร้ายนั้นไม่เป็นความจริง
- บทความนี้มีอายุมากกว่า 1 ปี
- เผยแพร่ วันที่ 30 มกราคม 2020 เวลา 12:00
- ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
- เขียนโดย: AFP ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ์ © AFP 2560-2568 การใช้เนื้อหาในลักษณะเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก ข้อมูลเพิ่มเติม
ภาพถ่ายดังกล่าวถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 และได้ถูกแชร์ถึง 6,400 ครั้ง
ด้านล่างคือภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์ที่ทำให้เข้าใจผิด
ข้อความในโพสต์เขียนว่า:
“ขอสรรเสริญในความกล้าของนาย ธีระฉัตร นิ่มมา รปภ.ห้างที่เอาชีวิตเข้าแลกวิ่งไปกดปิดประตูอัตโนมัติจนถูกคนร้ายยิงเสีย ชีวิตแต่ความกล้าหาญนั้นก็ไม่สูญเปล่าเพราะมันทำให้ตำรวจได้มาซึ่งพยานหลักฐานสำคัญที่สุด คือ เหงื่อของคนร้าย เพราะจำเป็นต้องใช้ตัวกระแทกประตูออกไป ทำให้เหงือไปติดอยู่ที่ประตู (ที่มั่นใจว่าเป็นเหงื่อของคนร้ายเนื่องจากเป็นประตูอัตโนมัติ ซึ่งปกติจะไม่ค่อยมีใครไปแตะ) ส่งผลให้เจ้าหน้าที่จึงสามารถนำ DNA จากเหงื่อไปเทียบกับ DNA คนร้ายได้ เป็นหลักฐานมัดตัวอย่างดีชนิดที่ดิ้นไม่หลุด ขอคารวะ และสรรเสริญฮีโร่ที่คนมองข้ามด้วยใจครับ #นี่แหละประเทศไทย”
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานว่ากรุงเทพธุรกิจรายงานว่า ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุจี้ชิงทองในห้างโรบินสัน เมืองลพบุรี จนมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ
ข้อความคล้ายๆ กันยังได้ถูกแชร์ออกไปในอีกหลายโพสต์ทางเฟซบุ๊กเช่น นี่ นี่ นี่ นี่ และ นี่ และทางทวิตเตอร์ที่นี่ นี่ นี่ นี่ นี่ และ นี่
ข้อความที่อยู่ในโพสต์เหล่านี้ไม่เป็นความจริง ตำรวจยืนยันว่าการสืบสวนไม่ได้มีการเก็บหลักฐานเป็นดีเอ็นเอจากเหงื่อตามที่เป็นกระแสข่าวทางออนไลน์
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ชี้แจงระหว่างแถลงข่าวว่าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นร้านทอง ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 23 มกราคมว่า “รายละเอียดเนี่ยมีนะครับ เพียงแต่ว่าที่เป็นเหงื่อเนี่ยไม่ใช่นะครับ ผมจะได้ตัดปัญหาไป พูดเรื่องเหงื่ออะไรเนี่ยไม่มีนะครับ … ไอที่เป็นพูดกันเรื่องเหงื่อเนี่ยผมขออนุญาตนะครับ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”
สื่อไทยยังรายงานที่นี่และนี่ว่าตำรวจยืนยันตัวตนมือปืนได้คำให้การของพลเมืองท้องถิ่นและโดยการยืนยันปืนและกระบอกเก็บเสียงที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ
ขณะที่ภาพที่ถูกนำมาใช้ในโพสต์เป็นภาพถ่ายของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เสียชีิวิตจริง
AFP ได้ติดต่อไปยังเพื่อนของผู้ตายที่โพสต์ภาพขาวดำที่ถูกนำไปใช้ในโพสต์ที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิด เพื่อนของรปภ. พูดคุยกับ AFP ทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2563 ว่าเขานำภาพต้นฉบับจากบัญชีเฟซบุ๊กของผู้ตายมาปรับเป็นภาพขาวดำหลังจากทราบข่าวการเสียชีวิต
พีพีทีวี ช่องทีวีดิจิตัล ได้นำเสนอภาพถ่ายจากงานศพของผู้ตายในรายงานข่าวเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563
ด้านล่างเปรียบเทียบภาพจากโพสต์เฟซบุ๊ก (ซ้าย) กับภาพจากรายงานข่าวของพีพีทีวี (ขวา)
พาดหัวข่าวของพีพีทีวีเขียนว่า “ครอบครัวหน.รปภ.โรบินสัน ห่วงลูก 3 คนยังเล็ก หลังถูกโจรปล้นทองยิงเสียชีวิต”
ภาพในรายงานข่าวตรงกับภาพถ่ายจากงานศพของผู้ตายที่ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กโดยสมาชิกครอบครัวผู้เสียชีวิต
พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?
ติดต่อเรา