คู่รักชาวอิสราเอลในภาพถ่ายที่ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ไม่ได้เสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส

  • เผยแพร่ วัน 6 พฤศจิกายน 2023 เวลา 05:55
  • อัพเดตแล้ว วัน 7 พฤศจิกายน 2023 เวลา 09:26
  • ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
  • เขียนโดย: Anuradha PRASAD, AFP อินเดีย
  • แปลและดัดแปลง โดย Chayanit ITTHIPONGMAETEE
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติหลายร้อยคนถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสยิงเสียชีวิตระหว่างการบุกโจมตีเทศกาลดนตรีแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งอยู่ใกล้กับฉนวนกาซา ต่อมาได้มีภาพถ่ายของคู่รักคู่หนึ่งที่ถูกเผยแพร่พร้อมคำกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดบนสื่อสังคมออนไลน์ว่าทั้งคู่ถูกสังหารระหว่างการโจมตี ผู้หญิงในภาพถ่ายยืนยันกับ AFP ว่าเธอและสามีปลอดภัยดี และตอนนี้อยู่ที่บ้านกับครอบครัว

"สามีภรรยาคู่นี้อยู่ในเทศกาลดนตรี ทั้งคู่ถูกยิง 8 นัดเสียชีวิตจากกลุ่มติดอาวุฮามาส ซึ่งทั้งคู่ได้ถ่ายภาพร่วมกันระหว่างแอบหลบอยู่ป่า" ผู้ใช้งานเอ็กซ์ (เดิมชื่อทวิตเตอร์) เขียนคำบรรยายเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566

โพสต์เดียวกันนี้ยังแชร์ภาพถ่ายภาพหนึ่งของคู่รักจูบกันขณะนอนราบไปกับพื้น

โพสต์ดังกล่าวมีผู้รับชมมากกว่า 92,000 ครั้ง ได้รับการรีโพสต์ 38 ครั้งและกดถูกใจ 266 ครั้ง

Image
ภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์เท็จ

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 กลุ่มฮามาสได้แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ของอิสราเอลทั้งทางบก อากาศ และทะเลพร้อมจรวดจำนวนมาก ก่อนจะสังหารชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติหลายร้อยคนที่งานเทศกาลดนตรีใกล้คิบบุตซ์ เรอิม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ฉนวนกาซา

ในวันแรกของการโจมตี กลุ่มฮามาสได้สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 1,400 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ถูกยิง แทง หรือเผา ทางการของอิสราเอลระบุ นอกจากนี้ อิสราเอลกล่าวว่า นักรบฮามาสราว 1,500 คนเสียชีวิตจากการปะทะกัน ก่อนที่กองทัพอิสราเอลสามารถควบคุมพื้นที่ที่ถูกโจมตีได้อีกครั้ง

กองทัพอิสราเอลได้ตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮามาสด้วยการทิ้งระเบิดลงในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง และคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์กว่า 4,600 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาระบุ

ภาพถ่ายเดียวกันนี้ยังถูกแชร์ในภาษาไทยในติ๊กตอกที่นี่ และในภาษาฮินดีที่นี่ นี่ และ นี่ โดยโพสต์เหล่านี้แชร์คำกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดในลักษณะเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงในภาพถ่ายกล่าวกับ AFP ว่าเธอและคู่รักปลอดภัยดี

'อยู่ที่บ้านกับครอบครัวอย่างปลอดภัย'

การค้นหาภาพย้อนหลังในกูเกิล AFP พบภาพถ่ายเดียวกันถูกเผยแพร่อยู่บนบัญชีอินสตาแกรมของอามิต สองวันหลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตี เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 (ลิงค์บันทึก)

อามิตเขียนคำบรรยายภาพเป็นภาษาฮีบรูว่า “เราแทบจะสรุปสิ่งที่เราเพิ่งเผชิญไม่ได้เลยหากไม่มีได้ซิฟ [เพื่อนของเธอ] ช่วยไว้ และเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ยังไม่จบลงจนกว่าเขาจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่พวกเราโชคดีที่รอดมาได้”

"จู่ๆ สามีฉันก็ตัดสินใจถ่ายเซลฟี่ ฉันโกรธเขาเพราะไม่เข้าใจว่าจะถ่ายรูปทำไมในตอนนั้น แต่ฉันพูดว่า ถ้าเราถูกฆ่าตาย อย่างน้อย ครอบครัวของเราก็จะจดจำภาพเราแบบนี้จนนาทีสุดท้าย"

"สามีฉันปกป้องฉันด้วยร่างกายของเขา และฉันก็พลันคิดถึงคู่อื่นๆ ที่มีตอนจบที่แตกต่างจากของเรา ... มันยากมากที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นไปไม่ได้ที่เลยที่จะทบทวนถึงสิ่งที่เราประสบมา เราได้แต่ภาวนาให้ซิฟได้กลับบ้านมาหาพวกเรา"

ในโพสต์เดียวกันนี้ อามิตได้แท็ก นีร์ เดอ จอร์โน ซึ่งเป็นสามีของเธอด้วย

นีร์ตอบว่า "ภรรยาของผม ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผมถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ... สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือคอยภาวนาให้ซิฟกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย"

ด้านล่างคือการเปรียบเทียบระหว่างภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์ที่ทำให้เข้าใจผิด (ซ้าย) และภาพที่อามิตโพสต์ในบัญชีอินสตาแกรมของเธอ (ขวา):

Image
เปรียบเทียบระหว่างภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์ที่ทำให้เข้าใจผิด (ซ้าย) และภาพที่อามิตโพสต์ในบัญชีอินสตาแกรมของเธอ (ขวา)

หลังอามิตได้โพสต์ภาพดังกล่าวในบัญชีอินสตาแกรม เธอได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวหลายแห่ง เช่นที่นี่ และ นี่ (ลิงค์บันทึกที่นี่ และ นี่)

อามิตกล่าวกับสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของสหรัฐอเมริกาว่า ภาพนี้ถูกถ่ายระหว่างที่เธอกับสามีซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้เป็นเวลาหลายชั่วโมง

รายงานจากสำนักข่าวระบุว่า "อามิตและสามีเข้าใจว่าภาพถ่ายนี้อาจเป็นภาพสุดท้ายของพวกเขา เธอกล่าวว่า 'อย่างน้อยถ้าเราตาย ครอบครัวของเราก็เหลือภาพถ่ายของพวกเราไว้ดูต่างหน้า'"

นอกจากนี้ อามิตยืนยันกับ AFP ว่าตอนนี้ทั้งเธอและสามีปลอดภัยดี

"ตอนนี้พวกเราอยู่ที่บ้านกับครอบครัว" อามิตกล่าวเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม แต่เสริมว่าพวกเขาพลัดหลงกับซิฟ ฮักบี เพื่อนของพวกเขาที่ถูกกล่าวถึงในโพสต์

ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ในเดือนตุลาคม 2566 ส่งผลให้เกิดข้อมูลเท็จและบิดเบือนในสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก โดยสามารถอ่านรายงานของ AFP ได้ที่นี่

พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?

ติดต่อเรา