ความขัดแย้งอิสราเอล–ปาเลสไตน์

แคมเปญโฆษณาที่สร้างด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกแชร์พร้อมคำกล่าวอ้างเท็จว่าเป็นภาพชาวอเมริกันทิ้งเสื้อผ้าเพื่อประท้วงแบรนด์ Zara

สงวนลิขสิทธิ์ © AFP 2560-2567 การใช้เนื้อหาในลักษณะเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก ข้อมูลเพิ่มเติม

คลิปวิดีโอที่แสดงเสื้อผ้าถูกโยนทิ้งไว้หน้าร้านซาร่า (Zara) ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง ในย่านไทม์สแควร์ของมหานครนิวยอร์ก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประท้วงต่อต้านแคมเปญโฆษณาของซาร่า ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมท่ามกลางสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ในความเป็นจริงแล้ว วิดีโอดังกล่าวถูกสร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และถูกเผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยแพลตฟอร์มขายสินค้าแฟชั่นมือสองชื่อ Vestiaire Collective ได้จัดทำขึ้นเพื่อต่อต้าน "ฟาสต์แฟชั่น" หรืออุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าตามกระแสนิยม

"ชาวอเมริกันแห่กันทิ้งเสื้อผ้าแบรนด์ Zara หลังจากลงโฆษณาที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับสถานการณ์ในฉนวนกาซา สิ่งนี้จะทำให้บริษัทคู่แข่งที่วางตัวเป็นกลางกอบโกยผลกำไรได้มหาศาล" ผู้ใช้งาน X บัญชีหนึ่งเขียนคำบรรยายในภาษาไทยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566

โพสต์ดังกล่าวแชร์คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นกองเสื้อผ้าที่ถูกโยนทิ้งลงบนพื้นหน้าไทม์สแควร์ในนครนิวยอร์ก

ภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์ที่แชร์คำกล่าวอ้างเท็จ

นอกจากนี้ ยังพบวิดีโอและคำกล่าวอ้างคล้ายๆ กันถูกแชร์ในภาษาไทยที่นี่ นี่ และ นี่

คำกล่าวอ้างดังกล่าวถูกแชร์อย่างต่อเนื่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นในภาษาอังกฤษ สเปน และ ฝรั่งเศส โดยโพสต์เหล่านี้ปรากฏขึ้นหลังแบรนด์แฟชั่นชื่อดังระดับโลกอย่างซาร่าได้เปิดตัวแคมเปญโฆษณา โดยนางแบบถือหุ่นโชว์ที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีขาว

ซาร่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ภายใต้บริษัทอินดิเท็กซ์ (Inditex) ซึ่งเป็นบริษัทแฟชั่นยักษ์ใหญ่สัญชาติสเปนและผู้ค้าปลีกแฟชั่นชั้นนำระดับโลก โดยบริษัทได้แถลงว่า มีการถ่ายทำโฆษณาดังกล่าวตั้งแต่เดือนกันยายน และหุ่นโชว์ที่ห่อด้วยพลาสติกสีขาวนั้นสื่อถึงประติมากรรมที่ยังสร้างไม่เสร็จ

"น่าเสียดายที่ลูกค้าบางคนรู้สึกขุ่นเคืองกับภาพเหล่านี้ ซึ่งตอนนี้ถูกลบออกไปแล้ว และตีความบางสิ่งในภาพนั้นไปไกลจากสิ่งที่พวกเราตั้งใจไว้" ซาร่าระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม (ลิงก์บันทึก)

ธุรกิจค้าปลีกดังกล่าวได้ลบภาพโฆษณาออก ท่ามกลางความโกรธแค้นในสื่อสังคมออนไลน์และเสียงเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตร เนื่องจากภาพโฆษณานั้นดูคล้ายร่างไร้วิญญาณของผู้ได้รับผลกระทบจากสงครามในฉนวนกาซา

การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์ทำให้พื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดเสียหายและคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 18,700 ราย โดยร้อยละ 70 นั้นเป็นผู้หญิง วัยรุ่นและเด็ก กระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการโดยกลุ่มฮามาสระบุ

การโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินของอิสราเอลในฉนวนกาซาเกิดขึ้นหลังกลุ่มติดอาวุธฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลอย่างกระทันหันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยกลุ่มฮามาสได้สังหารผู้คนไปประมาณ 1,200 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และจับตัวประกันได้ราว 240 คน จากข้อมูลอย่างเป็นทางการล่าสุดของอิสราเอล

หลังอิสราเอลทิ้งระเบิดลงในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ได้เกิดกระแสประณามและเรียกร้องให้คว่ำบาตรแบรนด์ที่สนับสนุนอิสราเอลไปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเกิดการชุมนุมประท้วงเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และต่อต้านผลิตภัณฑ์ของซาร่าอีกด้วย (ลิงก์บันทึก)

อย่างไรก็ตาม วิดีโอที่ถูกเผยแพร่ทางออนไลน์นั้นไม่ได้แสดงให้เห็นการชุมนุมประท้วงเพื่อต่อต้านซาร่าแต่อย่างใด

แคมเปญต่อต้านฟาสต์แฟชั่น

จากการค้นหาด้วยคำสำคัญในสื่อสังคมออนไลน์ AFP พบว่าบริษัท Vestiaire Collective ได้เผยแพร่วิดีโอต้นฉบับไว้ในอินสตาแกรมและติ๊กตอกเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 (ลิงก์บันทึกที่นี่ และ นี่)

คำบรรยายระบุว่า "เนื่องจากในแต่ละปีมีสิ่งทอที่กลายเป็นขยะกว่า 92 ล้านตัน เราจึงต้องเริ่มลงมือตั้งแต่ตอนนี้ ดังนั้น Vestiaire Collective จะต่อต้าน
แบรนด์ฟาสต์แฟชั่น 30 แบรนด์ ซึ่งรวมถึงซาร่า เอชแอนด์เอ็ม (H&M) แก็ป (Gap) อเบอร์ครอมบี้แอนด์ฟิทช์ (Abercrombie & Fitch) แมงโก้ (Mango) เออร์บันเอาท์ฟิตเตอร์ (Urban Outfitters) และยูนิโคล่ (Uniqlo)"

@vestiairecollective With 92 million tons of textiles sent to landfill every year, now’s the time to act. That’s why, from today, we’re banning another 30 fast fashion brands from Vestiaire Collective, including Zara, H&M, Gap, Abercrombie & Fitch, Mango, Urban Outfitters, and Uniqlo. Ready to join the movement? #thinkfirstbuysecond♬ original sound - Vestiaire Collective


มารี โทบาลี่ โฆษกของ Vestiaire Collective ให้สัมภาษณ์กับ AFP เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมว่า วิดีโอดังกล่าวเป็นผลงานของบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์

มารีกล่าวต่อว่า วิดีโอดังกล่าว ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มของ Vestiaire Collective เพื่อกระตุ้นความตระหนักรู้เกี่ยวกับฟาสต์แฟชั่นและขยะสิ่งทอ โดยวิดีโอถูกเผยแพร่เกือบหนึ่งเดือนก่อนหน้าที่ซาร่าจะปล่อยโฆษณาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ออกมา (ลิงก์บันทึก)

สามารถอ่านรายงานของ AFP เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่เกี่ยวกับสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสได้ที่นี่

พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?

ติดต่อเรา

บทความก่อนหน้านี้ บทความถัดไป