
โพสต์ทางสื่อสังคมออนไลน์ แชร์คำกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่
- บทความนี้มีอายุมากกว่า 1 ปี
- เผยแพร่ วันที่ 8 กรกฎาคม 2021 เวลา 08:06
- อัพเดตแล้ว วันที่ 8 กรกฎาคม 2021 เวลา 11:02
- ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
- เขียนโดย: AFP ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ์ © AFP 2560-2568 การใช้เนื้อหาในลักษณะเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก ข้อมูลเพิ่มเติม
คำกล่าวอ้างนี้ ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 และได้ถูกแชร์ต่ออีกกว่า 4,000 ครั้ง

คำบรรยายโพสต์เขียนบางส่วนว่า: “#อย่าตกใจไปตามชื่อ เชื้อที่รับเข้าไป ไม่ใช่ เพียงเปลี่ยนชื่อ จาก ไข้หวัดใหญ่ เป็น Covid แล้วจิตตก ซึ่งมันก็คือ #ไข้เหมือนกัน และรักษาได้เองที่บ้าน จะโดยสมุนไพร หรือ ตามหลักการแพทย์ สมัยใหม่ก็ได้ นั้นคือ”
1. ยาลดไข้ ทิฟฟี่
2. ยาฆ่าเชื้อ Amoxy (อะม็อกซี่)
3. น้ำขิง น้ำต้มยำ ซดร้อนๆ”
คำกล่าวอ้างนี้ถูกแชร์พร้อมภาพถ่ายอีก 3 ภาพ โดยเป็นภาพยา และภาพถ่ายหน้าจอรายงานข่าวเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด-19
โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ในขณะที่ประเทศไทยกำลังรับมือกับคลื่นการระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงที่สุด ท่ามกลางความพยายามที่จะกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาเดินทางในจังหวัดภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัว
คำกล่าวอ้างคล้ายๆ กัน ได้ถูกแชร์ทางเฟซบุ๊กที่นี่นี่นี่และนี่
อย่างไรก็ตาม คำกล่าวอ้างนี้เป็นเท็จ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้กล่าวเน้นย้ำว่าโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่โรคเดียวกัน
สาเหตุ
แม้ว่าไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด-19 จะเป็นโรคทางเดินหายใจเหมือนกัน แต่เกิดจากไวรัสคนละตัว องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าว
ข้อมูลในส่วน “ความคล้ายและความแตกต่างระหว่างไข้หวัดและโควิด-19” บนเว็บไซต์ของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าโรคโควิด-19 เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่าที่พบครั้งแรกในปี 2562 ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่
อย่างไรก็ตาม “เชื้อไวรัสทั้งสองชนิดแพร่กระจายผ่านละอองขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ในขณะที่ผู้ป่วย (จากโรคโควิด-19 หรือโรคไข้หวัด) ไอ จาม หรือพูด”
อาการ
CDC กล่าวว่าอาการของโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่มีส่วนที่คล้ายกัน ตั้งแต่ไม่มีอาการ (การไม่แสดงอาการ) ไปจนถึงอาการหนัก อาการที่พบบ่อยในทั้งผู้ป่วยโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่คือ มีไข้ ไอ เหนื่อยล้า คัดจมูก และเจ็บคอ
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ CDC ผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาจจะมีอาการอื่นๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยกว่าในผู้ป่วยโรคไข้หวัด เช่น จมูกไม่ได้กลิ่นและลิ้นไม่รับรส
ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จะแสดงอาการช้ากว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
แม้ว่าอาการป่วยของโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่จะมีส่วนที่คล้ายกันอยู่ แต่ WHO กล่าวว่าสัดส่วนของผู้ป่วยขั้นวิกฤติของโรคโควิด-19 นั้นสูงกว่าผู้ป่วยขั้นวิกฤติในโรคไข้หวัดใหญ่
ข้อมูลปัจจุบันสำหรับโรคโควิด-19 สันนิษฐานว่า 80% ของผู้ป่วยจะมีอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการ 15% อาการติดเชื้อหนัก โดยต้องใช้ออกซิเจน และ 5% มีอาการระดับวิกฤติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ สัดส่วนของผู้ป่วยอาการหนักและวิกฤติเหล่านี้สูงกว่าผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่
วิธีการรักษา
ไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด-19 มีขั้นตอนการรักษาที่ต่างกัน
ผู้ป่วยจากโรคไข้หวัดควรรักษาอาการป่วยโดยการใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งได้รับการอนุมัติโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA)
ในทางกลับกัน ยาเรมเดซิเวียร์ (remdesivir) เป็นยาที่ FDA อนุมัติให้ใช้ในการรักษาโรคโควิด-19
นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังศึกษาหลักฐานใหม่ เกี่ยวกับการรักษาโรคโควิด-19 สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ของสหรัฐฯ ได้พัฒนาแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 อย่างสม่ำเสมอ
การตรวจสามารถยืนยันได้ว่าบุคคลดังกล่าวป่วยจากโรคโควิด-19 หรือไข้หวัดใหญ่ สำหรับผู้ที่ผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก ควรปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุขและติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นทันที ขณะที่บุคคลที่ป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่ควรพักผ่อนที่บ้านและติดต่อแพทย์ในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้น
พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?
ติดต่อเรา