ภาพโลมาสีชมพูที่ถูกแชร์อย่างแพร่หลายถูกสร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- เผยแพร่ วัน 10 กรกฎาคม 2024 เวลา 05:24
- อัพเดตแล้ว วัน 10 กรกฎาคม 2024 เวลา 11:05
- ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
- เขียนโดย: Ara Eugenio, AFP ฟิลิปปินส์, AFP ประเทศไทย
- แปลและดัดแปลง โดย Pasika KHERNAMNUOY
สงวนลิขสิทธิ์ © AFP 2560-2567 การใช้เนื้อหาในลักษณะเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก ข้อมูลเพิ่มเติม
"เป็นภาพที่หาดูได้ยากกับน้อง 'โลมาสีชมพู'" โพสต์ X เขียนคำบรรยายเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567
โพสต์ดังกล่าวแสดงภาพโลมาสีชมพูผิวมันวาวที่กำลังกระโดดขึ้นเหนือน้ำ
ภาพเดียวกันนี้ถูกแชร์พร้อมคำกล่าวอ้างเท็จว่าโลมาสีชมพูในภาพนั้นถูกพบในสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหาดขนอม จ.นครศรีธรรมราช ไปจนถึงเกาะโบโฮล ประเทศฟิลิปปินส์ หรือรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา
โพสต์ภาพโลมาสีชมพูบน X นั้นถูกแชร์ไปมากกว่า 58,000 ครั้ง และได้รับการกดถูกใจมากกว่า 63,000 ครั้ง และยังมีโพสต์ภาษาไทยอื่น ๆ ที่นี่ นี่ และ นี่ นอกจากนี้ ภาพดังกล่าวยังถูกแชร์ในโพสต์ภาษาต่าง ๆ เช่น ภาษาอังกฤษ เกาหลี มลายู และ สิงหล
ผู้ใช้งานบางส่วนเชื่อว่าภาพนี้เป็นภาพโลมาสีชมพูในเหตุการณ์จริง
"ฮืออน้องงงงง สีสวยมากกกก" ความคิดเห็นหนึ่งระบุ
"เคยเห็นที่สงขลา ตอนออกไปตกปลา เจอเป็นฝูงเลย" อีกความคิดเห็นระบุ
อย่างไรก็ตาม เมื่อค้นหาภาพย้อนหลังบนกูเกิล พบว่าภาพโลมาสีชมพูนั้นถูกแชร์ครั้งแรกในโพสต์เฟซบุ๊กที่เขียนคำบรรยายอย่างชัดเจนว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่ภาพจริง
เพจเฟซบุ๊กชื่อ "Outer Banks Vibes" โพสต์รูปและเขียนคำบรรยายว่า พบสัตว์ชนิดนี้บริเวณชายฝั่งของนอร์ทแคโรไลนาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 (ลิงก์บันทึก)
อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการแก้ไขคำบรรยายของโพสต์ดังกล่าวซึ่งถูกแชร์กว่า 74,000 ครั้ง ว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ "สร้างด้วยเอไอ"
นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊กดังกล่าวได้เผยแพร่ภาพชุดคล้าย ๆ กันของ "โลมาที่กำลังทรมาน" ซึ่งแสดงภาพโลมาสีชมพูเกยตื้นอยู่บนหาดนอร์ทแคโรไลนา โดยคำบรรยายระบุว่าเป็นภาพที่สร้างด้วยเอไอ (ลิงก์บันทึก)
'ไม่เหมือนจริง'
ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเลระบุว่า ไม่มีรายงานว่ามีการพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธุ์หายากดังกล่าวทั้งในโบโฮลและนอร์ทแคโรไลนา
"ไม่มีรายงานการพบเห็นโลมาสีชมพูในโบโฮล" โยฮัน เทฮาดา นักชีววิทยาทางทะเลจากสำนักงานประมงและทรัพยากรทางทะเลในฟิลิปปินส์ กล่าวกับ AFP
เทฮาดากล่าวว่าภาพที่ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์นั้นเป็น "ภาพที่ถูกตัดต่อหรือสร้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด" และ "มีลักษณะไม่เหมือนโลมาสีชมพูของจริง"
ด้านโฆษกกองประมงทะเลของนอร์ทแคโรไลนาระบุว่า "ไม่มีรายงานที่ยืนยันว่าพบโลมาสีชมพูในน่านน้ำบริเวณนอร์ทแคโรไลนา"
โลมาสีชมพูในไทย
แม้ภาพที่ปรากฏในโพสต์ออนไลน์ดังกล่าวนั้นจะไม่ใช่ภาพจริงของโลมาสีชมพู แต่ในประเทศไทยมีรายงานว่าสามารถพบเห็นโลมาสีชมพูได้ตลอดทั้งปี
"โลมาสีชมพูนั้นเป็นโลมาสายพันธุ์หายากซึ่งปัจจุบันเหลือจำนวนไม่มากนัก สามารถพบได้ในบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยและอันดามันของประเทศไทยได้ตลอดทั้งปี แต่จะพบในหาดขนอมมากที่สุด" ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล ให้สัมภาษณ์กับ AFP
อย่างไรก็ตาม ภาพโลมาสีชมพูในโพสต์นั้น "สร้างจากเอไออย่างชัดเจน" ดร. ธรณ์กล่าว
โลมาสีชมพูมีสองสายพันธุ์ คือ โลมาแม่น้ำแอมะซอนและโลมาหลังโหนก (ลิงก์บันทึก)
องค์กรอนุรักษ์วาฬและโลมา (Whale and Dolphin Conservation) ระบุว่า โลมาทั้งสองสายพันธุ์นี้เป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
โลมาแม่น้ำแอมะซอนอาศัยอยู่ในแม่น้ำบริเวณป่าฝนในทวีปอเมริกาใต้ โดยมีลักษณะช่วงปากเรียวยาว และจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูหรือชมพู-เทาเมื่อมีอายุมากขึ้น (ลิงก์บันทึก)
ส่วนโลมาหลังโหนกนั้นพบได้ในไทย จีน ไต้หวัน และฮ่องกง โดยมีลักษณะลำตัวสีเทาไปจนถึงขาวเผือกหรือชมพูอ่อน (ลิงก์บันทึก)
เอเอ ยัปตินไซ ผู้อำนวยการองค์กรคุ้มครองสิ่งมีชีวิตทางทะเลของฟิลิปปินส์ (Marine Wildlife Watch) ระบุว่า ภาพโลมาสีชมพูนั้นเป็น "ของปลอม" เนื่องจากโลมาในภาพมีลักษณะแตกต่างจากโลมาสีชมพูทั้งสองสายพันธุ์
"โลมาในภาพน่าจะเป็นโลมาปากขวดที่ถูกปรับสีจากสีขาวให้เป็นสีชมพูสด" เขากล่าวกับ AFP
AFP ได้ตรวจสอบคำกล่าวอ้างเท็จอื่น ๆ เกี่ยวกับภาพที่สร้างด้วยเอไอ เช่น ภาพปลาหมึกยักษ์ และ ภาพช้างปีนต้นไม้
พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?
ติดต่อเรา