ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือน การกลั้วคอด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือหรือน้ำส้มสายชูไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้

คำกล่าวอ้างนี้ได้ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 และได้ถูกแชร์ออกไปอีกมากกว่าหมื่นครั้งครั้ง

โพสต์เฟซบุ๊กนี้แสดงภาพถ่ายหน้าจอข้อความที่ถูกส่งต่อผ่านไลน์ โดยมีภาพกราฟิกและข้อความที่เขียนว่า “โคโรน่าไวรัสก่อนที่จะลงปอดมันจะติดอยู่ในคอ 4 วัน ช่วงนี้บุคคลนั้นจะไอและเจ็บคอ ถ้าดื่มน้ำเยอะๆ และกลั้วคอด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ หรือ น้ำส้มสายชู จะขจัดไวรัสได้ กระจายข้อมูลนี้ด้วยเพราะคุณอาจจะช่วยบางคนได้ด้วยข้อมูลนี้”

ด้านล่างคือภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์ที่ทำให้เข้าใจผิด

Image

ภาพถ่ายหน้าจอของโพสต์เฟซบุ๊กที่ทำให้เข้าใจผิด

คำกล่าวอ้างคล้ายกันถูกแชร์ทางเฟซบุ๊กที่นี่ นี่ นี่ นี่และนี่ และทางทวิตเตอร์ที่นี่และนี่

คำกล่าวอ้างนี้เป็นเท็จ แม้การกลั้วคอเป็นวิธีการบรรเทาอาการเจ็บคอทั่วไป แต่ปัจจุบันไม่มีหลักฐานว่าวิธีการดังกล่าวจะสามารถป้องกันหรือฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้

คำแนะนำทางการขององค์การอนามัยโลก และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของประเทศ สหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ไม่มีข้อไหนที่ระบุว่าการกลั้วคอเป็นวิธีรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้ผล

ข้อความในเว็บไซต์ขององค์การอนามัยโลกเขียนว่า “แม้ว่าวิธีการรักษาตัวเองที่บ้านจะสามารถทำให้คุณรู้สึกสบายขึ้นและบรรเทาอาการของโควิด-19 แต่ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่ายาชนิดใดสามารถป้องกันหรือรักษาโรคดังกล่าวได้”

นอกจากนี้ ยังไม่มีหลักฐานที่สามารถสนับสนุนคำกล่าวอ้างว่าไวรัสโคโรน่าจะ “อยู่ในคอ 4 วัน” ก่อนไวรัสจะลามลงปอด

องค์การอนามัยโลกกล่าวว่าระยะฟักตัว ซึ่งหมายถึงระยะเวลาหลังจากที่ร่างกายติดไวรัสไปจนถึงช่วงที่เริ่มแสดงอาการป่วย โดยระยะฟักตัวจะอยู่ระหว่าง 1 ถึง 14 วัน แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 5 วัน

Brandon Brown ศาสตราจารย์จากศูนย์อนามัยชุมชนประจำมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียริเวอร์ไซด์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ผ่านอีเมลว่า การกลั้วคอด้วยน้ำเปล่าเป็นวิธีการบรรเทาอาการเจ็บคอทั่วไป แต่ไม่สามารถใช้กับไวรัสโคโรน่าได้