ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่ออกข้อบังคับเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยภายในรถยนต์ส่วนตัว
- บทความนี้มีอายุมากกว่า 1 ปี
- เผยแพร่ วันที่ 12 พฤษภาคม 2021 เวลา 09:00
- ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
- เขียนโดย: AFP ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ์ © AFP 2560-2568 การใช้เนื้อหาในลักษณะเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก ข้อมูลเพิ่มเติม
คำกล่าวอ้างนี้ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 และได้ถูกแชร์ต่ออีกกว่า 2,200 ครั้ง
คำบรรยายบางส่วนของโพสต์เขียนว่า “NEWS: รู้ไหมว่า ไม่มีประเทศไหนบังคับใส่หน้ากากใน “รถส่วนตัว”
โพสต์ดังกล่าวเขียนวิจารณ์มาตรการของรัฐบาลไทยว่าไม่มีข้อยกเว้นเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยให้กับสมาชิกครอบครัวที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ขณะเดินทางในรถยนต์ส่วนตัว
“ดังนั้นเวลาคนในครอบครัวเดียวกัน หรือคนใกล้ชิดกันอยู่ในพื้นที่ปิดอย่างในรถยนต์ส่วนตัว ก็เป็นปกติที่จะไม่ใส่หน้ากากอนามัย เพราะมัน “ไม่ช่วยอะไร” กลับบ้านมาก็ถอดอยู่ดี”
โพสต์นี้ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ ภายหลังการออกข้อบังคับเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะในกรุงเทพและอีก 47 จังหวัด สำนักข่าว AFP รายงาน
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 รัฐบาลไทยได้เผยแพร่แถลงการณ์ฉบับนี้ ซึ่งระบุหลักเกณฑ์ว่าบุคคลที่เดินทางในรถยนต์โดยมีผู้อื่นนั่งอยู่ด้วย จะต้องใส่หน้ากากอนามัย
“กรณีที่อยู่ในรถ ถ้ามีคนอื่นร่วมอยู่ด้วยในรถ ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ไม่ยกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แต่ถ้านั่งคนเดียวอนุโลมให้ไม่ต้องใส่หน้ากาก”
โพสต์ดังกล่าวยังมีรูปที่แสดงเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่ในรถ พร้อมข้อความที่เขียนว่า “รู้ไหมว่า ไม่มีประเทศไหนบังคับใส่หน้ากากใน รถส่วนตัว”
คำกล่าวอ้างเดียวกันถูกแชร์ทางเฟซบุ๊กที่นี่ นี่และนี่ และทางอินสตาแกรมที่นี่
อย่างไรก็ตาม คำกล่าวอ้างนี้เป็นเท็จ หลายประเทศได้ออกข้อบังคับเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ภายในรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งรวมไปถึงสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน
เอเซีย
แถลงการณ์ในเดือนพฤษภาคมปี 2563 ของกรมการขนส่งของประเทศฟิลิปปินส์ระบุว่า “คนขับรถและผู้โดยสารทั้งในยานพาหนะส่วนบุคคลและสาธารณะ จะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา”
ในแถลงการณ์ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าข้อบังคับเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย มีผลเมื่อคนขับรถนั่งอยู่ในยานพาหนะกับบุคคลอื่น “ไม่เว้นแม้ว่าบุคคลในรถจะอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน”
ในประเทศอินเดีย เจ้าหน้าที่ในกรุงเดลีประกาศเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ว่าประชาชนต้องใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะและ “บุคคลใดก็ตามที่เดินทางภายในยานพาหนะ ทั้งส่วนบุคคลหรือสาธารณะ จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย”
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2563 รายงานของ The Print หนังสือพิมพ์ออนไลน์ของอินเดีย ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัวของประเทศอินเดียอธิบายว่าทางกระทรวงไม่ได้มีคำสั่งโดยตรงเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยภายในรถยนต์ในกรณีที่มีคนขับรถนั่งอยู่คนเดียว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสามารถกำหนดโทษปรับได้ในกรณีที่ภายในรถยนต์มีคนอยู่มากกว่า 1 คน และมีคนในรถไม่ได้ใส่หน้ากาก
สำหรับประเทศอินโดนีเซีย ในกรุงจาการ์ตา เจ้าหน้าที่ได้ออกมาตรการเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 โดยระบุว่า “ผู้ใดก็ตามที่อยู่ในพื้นที่จาการ์ตา” จะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ข้างนอกบ้าน
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของประเทศอินโดนีเซีย The Jakarta Post รายงานว่าข้อบังคับนี้กำหนดให้ประชาชนต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา รวมไปถึงบุคคลที่เดินทางใน “รถยนต์ส่วนตัว” ด้วย
ยุโรป
ในประเทศสเปน ประชาชนต้องใส่หน้ากากอนามัยขณะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ในกรณีที่บุคคลในรถยนต์ไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน
แถลงการณ์ของรัฐบาลสเปนเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันต่อมา กล่าวว่า “บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปจะต้องใส่หน้ากากอนามัยขณะเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะหรือด้วยยานพาหนะส่วนบุคคล… ซึ่งรวมไปถึงคนขับถ้าผู้โดยสารในรถยนต์ไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน”
สำหรับประเทศเยอรมนี ในบางช่วงของการระบาด ประชาชนจะต้องใส่หน้ากากขณะอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว ถ้าผู้โดยสารและคนขับรถไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน โดยมาตรการนี้มีผลบังคับใช้ในบางพื้นที่ในประเทศเช่นกรุงเบอร์ลิน
พบเนื้อหาที่คุณต้องการให้เอเอฟพีตรวจสอบ?
ติดต่อเรา